In accessing the website, the visitor agrees to process the cookies collection for visitor’s statistical analysis and the collection on certain personal data. For further detail, please visit Privacy Policy

News

THREL ผลงาน 1H21 แกร่ง กำไรสุทธิพุ่ง 87% แตะ 65 ล้านบาท กวาดเบี้ยประกันภัยต่อรับเกือบ 1,500 ล้านบาท

11/08/2021
THREL โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 2564 แกร่ง กำไรสุทธิพุ่ง 87% แตะ 65 ล้านบาท กวาดเบี้ยประกันภัยต่อรับเกือบ 1,500 ล้านบาท ตามการเติบโตของประกันสุขภาพ หลังผู้บริโภคตระหนักรู้ความสำคัญมากขึ้น ขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนสดใสรับอานิสงค์ตลาดหุ้นฟื้นตัว พร้อมกด Combined Ratio ลงต่อเนื่องเหลือ 96.7%

หลังคุมเข้มความเสี่ยงรับงาน-เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารค่าใช้จ่าย ผู้บริหารส่งซิกครึ่งปีหลังเร่งเครื่อง New S-Curve ผนึกความร่วมมือพันธมิตรพัฒนาโปรดักส์-โซลูชั่น รองรับวิถีชีวิตยุค New-Normal ล่าสุด A.M. Best คงเรตติ้ง A- สะท้อนฐานะการเงินแกร่ง

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโตกว่า 16% แตะ 1,450 ล้านบาท ตามการเติบโตของประกันสุขภาพ จากกระแสการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของผู้บริโภค ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งงานประกันชีวิตแบบร่วมพัฒนา (Non-Conventional) ที่เพิ่มขึ้น 21% จากการขยายการรับงานสัญญาประกันสุขภาพ และจากสัญญาใหม่ของสัญญาประกันชีวิตแบบกลุ่มและอุบัติเหตุ

ส่วนงานประกันชีวิตแบบดั้งเดิม (Conventional) เพิ่มขึ้น 12% จากสัญญาใหม่งานประกันสุขภาพ ขณะที่รายได้จากการลงทุนอยู่ที่ 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 76% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการฟื้นตัวของมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดหุ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 9% อยู่ที่ 1,206 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากการเติบโตของเบี้ยจึงมีการตั้งสำรองค่าสินไหมทดแทน (เคลม) ของสัญญาใหม่ในส่วนของงาน Non-Conventional ส่วนค่าใช้จ่ายงาน Conventional ปรับลดลงจากปีก่อน 33 ล้านบาท ผลจากการยกเลิกสัญญาประกันสุขภาพที่ไม่มีกำไรในช่วงก่อนหน้า ซึ่งภายใต้นโยบายการมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุมเข้มความเสี่ยงในการรับงาน เพื่อควบคุมค่าสินไหมทดแทนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ Combined Ratio (COR) เหลือ 96.7% ปรับลดลงต่อเนื่องจาก 98% ในช่วงเดียวกันปีก่อน

นายสุทธิ บอกเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ยังยากต่อการประเมินผลกระทบที่มีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตได้อย่างชัดเจน ดังนั้นบริษัทฯจึงยังคงเฝ้าติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเพิ่มความระมัดระวังความเสี่ยงในการรับงานแบบเข้มข้นมากขึ้น โดยช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เตรียมผนึกความร่วมมือพันธมิตรร่วมพัฒนาโปรดักส์ รวมถึงโซลูชั่น และโมเดลใหม่ๆ รองรับวิถีชีวิตยุค New-Normal ภายใต้แผน New S-Curve

“แม้ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เชื่อมั่นว่า “ประกัน” ยังมีความจำเป็นอย่างมากต่อทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภค เพราะถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต” นายสุทธิ กล่าว

ทั้งนี้ล่าสุด บริษัทฯ ยังคงได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิตเรตติ้ง) ในระดับเดิมที่ A- หรือระดับ “แข็งแกร่ง” จากสถาบันจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล A.M. Best ซึ่งสะท้อนฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำขีดความสามารถในการขยายงานทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนการเติบโตในอนาคต